วันแรกของการเดินทาง จากเมืองไทยไป Orlando Florida
ตามกำหนดการแล้ว ผมจะไปพักเครื่องที่ เมือง los angeles และเที่ยวหนึ่งวัน ก่อนจะต่อเครื่องไปลง Orlando Florida.
เสียค่าทัวร์ไปโดนประมาณ 2500 บาท 1 วัน


ขึ้นเครื่อง

บินได้ 11 ชมไปลง นาริตะ เหนื่อยมากไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อน T_T
จากนั้นก็ไปลงที่ Los Angeles รับกระเป๋าแล้วไปรอเที่ยวกับทัวร์

ทัวร์โครงการนี้ไม่มีอะไรเลยมีแต่รถ กับคนไทยนำเที่ยว บอกว่าจะไปไหน ตอนแรกตามโครงการจะต้องไป UCLA แต่เขาไปส่งที่ ROUTE 66 แทน – -”
หนาวชิบหายเลยละจ้า


ทัวร์ไปดอกที่แรกคือที่ Farmer Market ด้วยความเซ่อซ่าไม่เคยมาต่าง ประเทศ ผมเลยสั่งอาหารผิด ได้พิซซ่าถาดกลางมา กินไม่หมด ร้องไห้เลย
ภาพบรรยากาศร้านขายของใน Farmer Market
เดินเข้าไปใน Farmer market หน่อยหนึ่งจะมีร้านแบรนเนมขายของเยอะมาก
รูปโรงหนังของเขา ใหญ่ดีคนไม่ค่อยจะมีมาดู 555
เดินที่นี่ได้สักสองชั่วโมงก็ขึ้นรถไปดู ฮอลีวูด

เดินไปยังฮอลิวูด ดู้ด ดู้ด
ระหว่างเดินไปก็มีพื้นดาว แล้วมีชื่อศิลปิล และคนที่เเต่งตัวเป็นตัวละครต่างๆเดินไปเดินมา
ไกด์บอกว่าระวังอย่างไปถ่ายรูปกับเขาเพราะว่าจะเสียเงินครับ ถ่ายรูปไม่ฟรี !!!
ถ้าจะถ่ายอย่าให้เเบ๊งค์เกิน 5$ เพราะมันจะไม่ทอน 55555+
ด้านในที่เข้าไปก็จะมีรอยมือรอยเท้าของศิลปิล
แต่อันนี่เก่ามาก 1998 ยังมีเลย
เดินเข้าไปด้านในเรื่อยๆจะเจอกับกระไดเปียโน แต่ละขั้นของกระได มันจะมีเซ็นเซอร์อยู่แล้วเวลาเราเดินผ่านก็จะส่งเสียงออกมา
เมื่อเดินไปชั้นสองก็จะเจอร้านขายลูกกวาด มีลูกกวาดเก่าๆเหมือนในการ์ตูนขายบรึมเลย ไม่ได้ถ่ายไว้


เดินขึ้น บรรไดเลื่อนมาชั้นถัดไปมีโรงหนังและร้านอาหารให้เลือกมากมาย แต่ไม่ได้กินอะไรเลย 5555
รูปปั้นช้างแปลกๆดี
เดินมาจนถึงจุดชมวิว ตรงนี้จะมองเห็นป้าย Hollywood สีขาวได้แต่เล็กเหลือเกิน 55


เดินกลับไปยัง รถทัวร์ เพื่อไปที่ต่อไปครับ
ตอนนี้ขึ้นรถมาแล้วครับนั่งรถผ่านบ้านคนรวย ใหญ่โตมาก 2ล้าน up แต่ละหลัง
เดินทางไปยัง Route 66 หรือ Santa monica harbor จ้า
ที่นี่หนาวมากเพราะติดทะเล ที่นี่มีร้านอาหาร มีร้านขายของที่ละลึกและ สวนสนุกย่อมๆเล็กๆอยู่
ตอนเดินไปเผอิญไปเจอคู่รักเอาลำโพงมาเปิดเพลง เต้นรำกันตรงชายหาดดูน่ารักดี
เมื่อจบทัวร์เราก็ขึ้นเครื่องตรงไปยัง Orlando Florida ครับ
เมื่อลงมาจากเครื่องบิน พวกเราก็เดินไปซื้อตั๋วรถทัวร์เพื่อต่อไปยังที่พักของ Disney
โชคดีที่ปริ้น Coupon มาทำให้ลดค่าโดยสารไปได้ 5$
ภาพบรรยากาศการเดินทางระหว่างสนามบินมาที่พัก

และแล้วในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้าน Vista มารับรายละเอียดของวันแรก ว่าเราจะอยู่บ้านกับใครบ้างและ มีขนมแจกเพียบเลยย
ผมคิดว่าสิ่งที่ Disney ทำเหล่านี้คงไม่มีที่บริษัทอื่นแน่
<< Safe D begin with me คำนี้ยังติดสมองอยู่ เเต่เขารับพนักงานใหม่ได้ดีจริงๆ
วันแรกก็ได้ทำความรู้จัก Roommate ของเรา ครั้งแรกคิดว่าจะได้อยู่กับฝรั่งแต่อยู่กับคนไทยก็ไม่เป็นไร
ดิสนี่เอารถออกมารับเราไปส่งยังหมู่บ้านของแต่ละคนทีละหมู่บ้าน
<< รูป Roommate สามคน ที่ได้อยู่ด้วยกัน
น้องปั๊ป เติม และผม บูม
ดิสนี่ย์ขับรถมาส่งที่หมู่บ้านเรา
ในที่สุดก็ถึงห้องของกระผม
วิวนอกหน้าต่าง
วันนี้เหนื่อยมากแต่สู้ตายเลยไปดูอาหารที่ walmart เนื่องจากสองวันแรกไม่มีบัตรพนักงานเลยได้บัตรชั่วคราวมา
ขึ้นรถสาย H ของโครงการไปห้าง walmart ครับผม
รถประจำทางของ Disney ฟรีทั้งหมดและมีตารางเวลารถมาให้ทำให้สะดวกต่อการกะเวลาเดินทาง
แต่รถของ ดิสนีย์ เสียงดังและมาไม่ค่อยตรงเวลาเท่าไหร่
เนื้อแท่งแปลกดีเพื่อนซื้อมาเลยลองขอชิมดู
ห้องด้านนอก living room
ผมได้อยู่หมู่บ้าน Commons ครับ ค่าเช่าห้องอยู่ที่ 103$ ++ จำไม่ค่อยได้ว่าเท่าไหร่
มีเตาอบ อินเตอร์เน็ต(ไม่ไร้สาย) ห้องน้ำในห้องนอน ตู้ซักผ้า ตู้อบผ้า เครื่องล้างจาน(ไม่เคยได้ใช้) ไมโครเวป เรียกได้ว่าครบเลยทีเดียว
สิ่งที่ Disney ให้ความสำคัญ
ผมเคยอ่านหนังสือเรื่อง Entreleadership ของ Dave Ramsey อยู่ตอนหนึ่ง เขาบอกว่า พนักงานของเขา( Employee ) จะไม่ได้ถูกเรียกว่า ลูกจ้าง (Employee) แต่เขาจะใช้คำว่า (team member) แทน เพื่อเรารู้สึกดี และเป็นส่วนหนึ่งกับองค์กร ได้ผลทั้งในเชิงปฎิบัติ. ถ้าพนักงานเขา Happy งานที่ทำก็ Happy ด้วย 🙂